วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555


รถยนต์คลาสสิก

รถยนต์คลาสสิก คือ รถยนต์เก่า หรือรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในอดีต คือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2443 เป็นต้นไป โดยระยะรุ่นปีของรถที่ถือว่าเป็นรถยนต์คลาสสิกนั้น นอกเหนือจากความเก่า และรูปลักษณ์ที่ดูคลาสสิกแล้ว ยังขึ้นอยู่กับรสนิยมอีกด้วย เนื่องจากมีบ่อยครั้งที่มีบุคคลบางกลุ่มเรียกรถยนต์ที่มีลักษณะที่ดูคลาสสิก เช่น ฟอร์ด มัสแตง โฉมแรก (รุ่นปี ค.ศ. 1964 - 1973) เป็นต้น ว่าเป็นรถยนต์คลาสสิก แต่อีกบางกลุ่มก็ไม่ถือว่าเป็นรถคลาสสิก เช่น Classic Car Club of America จะไม่ถือว่ารถยนต์ที่เริ่มผลิตหลัง ค.ศ. 1948 เป็นรถยนต์คลาสสิก เนื่องจากรถยนต์ที่ใหม่กว่านั้นจะใช้คำอื่นที่ไม่ใช่ "รถยนต์คลาสสิก" มานิยามแทน
รถยนต์คลาสสิกที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน มักจะได้รับการดูแลรักษารถให้เงางามและอยู่ในสภาพดี รวมไปถึงการบูรณะสภาพรถ จากที่มีสภาพเป็นซากรถ หรือใช้การไม่ได้ ให้อยู่ในสภาพที่ดีและมีความงามมากขึ้น

ฟอร์ด โมเดลที อาจถือได้ว่าเป็นรถยนต์คลาสสิกรุ่นหนึ่ง


วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เกล็ดความรู้ คาร์บูเรเตอร์ (Carburetor)


          คาร์บูเรเตอร์ (อังกฤษ: carburetor, carburettor, carburetter, Carb) เป็นอุปกรณ์สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทำหน้าที่ผสมน้ำมันและอากาศให้กลายเป็นไอจากนั้นจึงส่งเข้าสู่ห้องเผาไหม้ คำว่า Carburater มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า carbure

หลักการทำงาน

          ความสำคัญของคาร์บูเรเตอร์ในการทำงานของเครื่องยนต์คือการผสมน้ำมันกับ อากาศหลังจากนั้นจึงส่งเข้าสู่ห้องเผาไหม้อย่างเหมาะสม ทำให้เครื่องยนต์เดินเรียบทั้งในรอบเดินเบาและการเร่ง ลดการเกิดมลภาวะ ควบคุมความเร็วของเครื่องยนต์ โดยผสมน้ำมันกับอากาศให้กลายเป็นไอดี และส่งเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้อย่างเหมาะสม เมื่อเครื่องยนต์อยู่ในระยะเดินเบาหรือความเร็วรอบของเครื่องยนต์ต่ำ ลิ้นปีกผีเสื้อในคาร์บูเรเตอร์จะเปิดน้อย ส่งผลให้ปริมาณน้ำมัน และอากาศที่ถูกส่งเข้าไปในห้องเผาไหม้น้อยลง ทำให้เครื่องยนต์เดินรอบต่ำ ในทางตรงข้ามหากต้องการให้เครื่องยนต์มีรอบความเร็วของเครื่องยนต์สูงขึ้น ลิ้นปีกผีเสื้อจะเปิดมากขึ้นหรือเต็มอัตรา ปริมาณไอดีก็จะเข้าในห้องเผาไหม้ในปริมาณที่มากตามไปด้วย ภายในของคาร์บูฯมีช่องคล้ายคอขวดเรียกว่าช่องเวนจูรี่ ส่วนนี้จะทำให้เกิดปฏิกิริยาเวนจูรี่ ความเร็วของไอดีจะมีมากขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากเส้นผ่า ศูนย์กลางของท่อมีขนาดเล็กลง การเพิ่มความเร็วของการเคลื่อนที่ส่งผลให้ความดันที่บริเวณคอขวดลดลง ทำให้เกิดภาวะความดันต่ำกว่าความดันบรรยากาศ นอกจากนั้นคอขวดจะมีท่อน้ำมันขนาดเล็ก น้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกดูดเข้ามาผสมกับอากาศ และวิ่งต่อไปสู่ห้องเผาไหม้


รูปแสดงการทำงานของคาร์บูเรเตอร์