วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556

ชีวประวัติบุคคลยานยนต์โลก : โซอิชิโร ฮอนด้า

ชีวประวัติบุคคลยานยนต์โลก : โซอิชิโร ฮอนด้า
< Biography of HONDA founder : Soichiro Honda >
บุคคลซึ่งเป็น ตำนานฮอนด้า และสร้าง ประวัติฮอนด้า ให้ทั่วโลกได้รู้จักจนถึงทุกวันนี้






 
จักรยานติดเครื่องยนต์ " บาตะ บาตะ ( putt putt ) "
นวัตกรรมที่ มิสเตอร์ โซอิชิโร ฮอนด้า ประดิษฐ์ขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1946 หรือ พ.ศ.2489
ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ฮอนด้าคอลเลคชั่น ฮอลล์ ( Honda Collection Hall ) ประเทศญี่ปุ่น
เพื่อระลึกถึงความภาคภูมิใจและจุดเริ่มของพลังแห่งความฝันที่เป็นจริงของฮอนด้า
HONDA The Power of Dreams 
 
ขอขอบคุณที่มา : หนังสือ ฮอนด้า โซอิจิโร ชายผู้สร้างความฝันให้เป็นความจริง
                            หนังสือ ชีวประวัติบุคคลยานยนต์โลก โซอิชิโร ฮอนด้า
                            http://www.jrmotor.com/history-honda.html

วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

เวสป้า (Vespa)

เวสป้า (อังกฤษ: Vespa) เป็นรถมอเตอร์สกู๊ตเตอร์ เริ่มผลิตที่เมืองปอนเตเดรา ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี ในปี ค.ศ. 1946 โดย Piaggio & Co,S.p.A เวสป้าแพร่หลายในช่วงปี 50s และ 60s เป็นที่นิยมกันในหมู่วัยรุ่นอังกฤษ โดยเฉพาะพวก ม็อด เวสป้าในภาษาอิตาลีแปลว่า ตัวต่อ

ประวัติ

     หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 Piaggio ที่แต่เดิมมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนของเรือและส่วนเครื่องบิน หันมาผลิตเครื่องยนต์แบบง่ายในแบบ Four - Part P 108 ให้กับรถเวสป้า ที่โรงงาน Pontedera จึงเกิดความคิดที่สร้างยานพาหนะเล็กๆไว้เดินทางขนส่งและสำรวจใน โรงงานคือ MP5 หรือโดนัลดัค ซึ่งในรุ่นนี้ทำจากซากชิ้นส่วนของเครื่องบิน มันคือสกู๊ตเตอร์ หรือ รถจักรยานยนต์คันเล็กๆ ที่มีล้อต่ำๆ ช่วยต่อการขับขี่ไม่สิ้นเปลืองน้ำมันและราคาไม่แพง

     ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1945 รถเวสป้ารุ่น MP6 ก็ถูกผลิตออกมาด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่สะดวกสบาย มีล้ออะไหล่ซึ่ง ขับขี่แบบง่ายๆ ถ้าในเวลาขับขี่รถติดก็มีที่กำบังกันน้ำกระเด็นใส่ Enrico ได้ฟังเสียงรถ MP6 เขาร้องออกมาว่า"มันเหมือนตัวต่อร้องเลย" ตั้งแต่นั้นมา Enrico ก็เลยให้ชื่อเสียงเรียงนามเรียกรถนี้ว่า Vespa ซึ่งแปลว่าตัวต่อ (Wasp)
รุ่นแรกเป็นสกู๊ตเตอร์ขนาด เล็กที่ใช้โครงสร้างตัวถังแบบชั้นเดียว หลังจากผลิตรถรุ่นดังกล่าวได้ประมาณ 100 คัน จึงลงมือผลิตรุ่นที่ใช้ชื่อว่า Vespa (Wasp) ออกมา รถรุ่นนี้มีความก้าวหน้ามากทั้งในด้านรูปทรงและด้านวิศวกรรม ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบของ Vespa ที่มีการวางจำหน่ายในท้องตลาดจนถึงกลางทศวรรษ 1990 สกู๊ตเตอร์รุ่นแรกมีขนาดเครื่องยนต์เพียง 98 cc. ต่อมาได้มีการพัฒนาให้มีขนาด 125 cc., 150 cc. และ 200 cc. ตามลำดับ
ในประเทศไทย Piaggio Group มีตัวแทนจำหน่ายรถเวสป้า ดำเนินธุรกิจโดย บริษัท เวสปิอาริโอ ​​​(ประเทศไทย) จำกัด
  

รุ่นต่างๆของ เวสป้า

     เวสป้าออกมาทั้งหมด 138 รุ่น จนถึงปัจจุบัน

รุ่นเก่าๆ

  • Paperino - รุ่นแรก ผลิตในปี 1945 ที่ Biella
  • AMCA Troupes Aeról Portées Mle. 56 - ดัดแปลงโดยกองทัพฝรั่งเศส
  • VBC Super 150
  • VLB Sprint 150
  • VBB Standard 150
  • V9A
  • VNA
  • Vespa U - U มาจาก utilitaria (ภาษาไทย แปลว่า ประหยัด) เป็นรุ่นปี 1953 model ราคา 110 mila Lira ถูกผลิตออกมา 7000 คัน
  • GS 150
  • SS180
  • GS160
  • Standard 90 (3 spd)
  • Standard 50 (3 spd)
  • SS50 (4 spd)
  • SS90 (4 spd)-90 SS Super Sprint
  • 150 GL
  • 90 Racer
  • 125 TS
  • 100 Sport
  • 125 GTR
  • 150 Sprint Veloce
  • 180 SS Super Sport
  • Rally 180
  • Rally 200
  • Primavera 125 also ET3 (3 port version)
  • PK 50
  • PK 50 XL
  • PK 50 Roma (Automatic)
  • 50 S
  • 50 Special
  • 50 Special Elestart
  • 50 Sprinter / 50 SR (D)
  • 50 Special Revival
  • COSA 1 - 125cc, 150cc, 200cc
  • COSA 2 - 125cc, 150cc, 200cc
  • P80 / P80 E (France)
  • P80X/PX80 E (France)
  • PK 80 S / Elestart
  • PK 80 S Automatica / Elestart
  • PK100 S / Elestart
  • PK100 S Automatica
  • PK100 XL
  • PK125 XL / Elestart
  • PK 125 S
  • PK 125 E
  • PK 125 automatica (automatic tranny)
  • P 125 E
  • P200E
  • PX200EFL
  • PX200 Serie Speciale
  • T5 / Elestart (5 port engine 125cc P series)
  • T5 Classic (5 port engine 125cc P series)
  • T5 Millennium (5 port engine 125cc P series)

รุ่นล่าสุด

  • ET2 50 - 2stroke
  • ET4 50 - 4stroke
  • ET4 125 (Euro Model)
  • ET4 150 (US model)

รุ่นปัจจุบัน

  • Vespa S 50 และ 125
  • GT60° 250cc
  • LX 50
  • LX 125
  • LXV 125 (ครบรอบ 60 ปีของรุ่น LX 125)
  • LX 150
  • GT 125
  • GT 200
  • GTS 250
  • GTV 250 (ครบรอบ 60 ปีของรุ่น GTS 250)
  • PX 125
  • PX 150 (ผลิตใหม่ในอเมริกาและแคนาดา ในปี 2004)
  • PX 200

รุ่นพิเศษ

  • Montlhéry - ผลิตในปี 1950 เพื่อทำลายสถิติในงาน Montlhéry
  • Torpedo - ผลิตในปี 1951 วิ่งได้เร็วถึง 171 กม/ชม
ไฟล์:Rally180.jpg
Vespa Rally 180 ปี 1969





 

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555


รถยนต์คลาสสิก

รถยนต์คลาสสิก คือ รถยนต์เก่า หรือรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในอดีต คือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2443 เป็นต้นไป โดยระยะรุ่นปีของรถที่ถือว่าเป็นรถยนต์คลาสสิกนั้น นอกเหนือจากความเก่า และรูปลักษณ์ที่ดูคลาสสิกแล้ว ยังขึ้นอยู่กับรสนิยมอีกด้วย เนื่องจากมีบ่อยครั้งที่มีบุคคลบางกลุ่มเรียกรถยนต์ที่มีลักษณะที่ดูคลาสสิก เช่น ฟอร์ด มัสแตง โฉมแรก (รุ่นปี ค.ศ. 1964 - 1973) เป็นต้น ว่าเป็นรถยนต์คลาสสิก แต่อีกบางกลุ่มก็ไม่ถือว่าเป็นรถคลาสสิก เช่น Classic Car Club of America จะไม่ถือว่ารถยนต์ที่เริ่มผลิตหลัง ค.ศ. 1948 เป็นรถยนต์คลาสสิก เนื่องจากรถยนต์ที่ใหม่กว่านั้นจะใช้คำอื่นที่ไม่ใช่ "รถยนต์คลาสสิก" มานิยามแทน
รถยนต์คลาสสิกที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน มักจะได้รับการดูแลรักษารถให้เงางามและอยู่ในสภาพดี รวมไปถึงการบูรณะสภาพรถ จากที่มีสภาพเป็นซากรถ หรือใช้การไม่ได้ ให้อยู่ในสภาพที่ดีและมีความงามมากขึ้น

ฟอร์ด โมเดลที อาจถือได้ว่าเป็นรถยนต์คลาสสิกรุ่นหนึ่ง


วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เกล็ดความรู้ คาร์บูเรเตอร์ (Carburetor)


          คาร์บูเรเตอร์ (อังกฤษ: carburetor, carburettor, carburetter, Carb) เป็นอุปกรณ์สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทำหน้าที่ผสมน้ำมันและอากาศให้กลายเป็นไอจากนั้นจึงส่งเข้าสู่ห้องเผาไหม้ คำว่า Carburater มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า carbure

หลักการทำงาน

          ความสำคัญของคาร์บูเรเตอร์ในการทำงานของเครื่องยนต์คือการผสมน้ำมันกับ อากาศหลังจากนั้นจึงส่งเข้าสู่ห้องเผาไหม้อย่างเหมาะสม ทำให้เครื่องยนต์เดินเรียบทั้งในรอบเดินเบาและการเร่ง ลดการเกิดมลภาวะ ควบคุมความเร็วของเครื่องยนต์ โดยผสมน้ำมันกับอากาศให้กลายเป็นไอดี และส่งเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้อย่างเหมาะสม เมื่อเครื่องยนต์อยู่ในระยะเดินเบาหรือความเร็วรอบของเครื่องยนต์ต่ำ ลิ้นปีกผีเสื้อในคาร์บูเรเตอร์จะเปิดน้อย ส่งผลให้ปริมาณน้ำมัน และอากาศที่ถูกส่งเข้าไปในห้องเผาไหม้น้อยลง ทำให้เครื่องยนต์เดินรอบต่ำ ในทางตรงข้ามหากต้องการให้เครื่องยนต์มีรอบความเร็วของเครื่องยนต์สูงขึ้น ลิ้นปีกผีเสื้อจะเปิดมากขึ้นหรือเต็มอัตรา ปริมาณไอดีก็จะเข้าในห้องเผาไหม้ในปริมาณที่มากตามไปด้วย ภายในของคาร์บูฯมีช่องคล้ายคอขวดเรียกว่าช่องเวนจูรี่ ส่วนนี้จะทำให้เกิดปฏิกิริยาเวนจูรี่ ความเร็วของไอดีจะมีมากขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากเส้นผ่า ศูนย์กลางของท่อมีขนาดเล็กลง การเพิ่มความเร็วของการเคลื่อนที่ส่งผลให้ความดันที่บริเวณคอขวดลดลง ทำให้เกิดภาวะความดันต่ำกว่าความดันบรรยากาศ นอกจากนั้นคอขวดจะมีท่อน้ำมันขนาดเล็ก น้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกดูดเข้ามาผสมกับอากาศ และวิ่งต่อไปสู่ห้องเผาไหม้


รูปแสดงการทำงานของคาร์บูเรเตอร์